เรียน Data Science 1 ปีแล้วนึกว่าเป็นนัมโดซานเลยลง Hackathon (เป็นไงล่ะ รอดไหมล่ะ)

Canate Dew Prakobkaew
2 min readFeb 25, 2021

--

ภาพประกอบจาก Netflix เรื่อง Start-Up

กรุณาเปิดเพลง Running — Gaho ระหว่างอ่านบทความเพื่อความอิน

ความเดิมในตอนที่แล้ว เมื่อคนไม่รู้เลขและโค้ด ต้องก้าวสู่โลกของ Data Science ได้ผ่านชีวิตอันแสนสาหัสกับต้องเผชิญโลกใบใหม่ที่มี Data Science เข้ามาพัวพันและได้เตือนคนที่จะก้าวสู่โลกแห่งนี้ว่า [อย่า]ผึ้งหนีไปลูก เมื่อเรียน Data science ไป 1 เทอม (อย่าเพิ่งรีบตาย ฉันเพิ่งเริ่ม) แม้ว่าจะเตือนคนที่จะเข้าสู่โลกใบนี้ไปอย่างนั้น แต่ผมก็ยังสู้ต่อจนกระทั้งเรียนมาได้แล้ว 1 ปี ณ ที่ BADS NIDA (ตอนนี้อัพเกรดเป็น DADS NIDA แล้ว ถ้าใครอยากจะตามมาก็ดูหลักสูตรนี้นะครับ)

ด้วยความที่อินกับนัมโดซานจากเรื่อง Start-Up และผมเองก็เรียนด้าน Data Science มา เกรดวิชาเขียนโค้ดเองก็ออกมาดีเกินคาดจากคนที่ไม่มีพื้นฐานมาเลย แล้วก็มีแว้บหนึ่งที่จิตใต้สำนึกพร้อมกับภาพในหัวบอกกับตัวเองว่า “นายเองก็เป็นฮีโร่ได้นะ” เออเนอะก็จริง เราเองก็เป็นนัมโดซานได้ อายุก็ใกล้ๆกัน ความหล่อก็เทียบได้แล้ว ลองเทียบเรื่องแข่งบ้างจะเป็นอะไรไป ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว

นายน่ะก็เป็นฮีโร่ได้นะ
ภาพประกอบในหัวจากเรื่อง My Hero Academia

แต่หารู้ไม่เส้นทางการเดินทางตามรอยนัมโดซานนั้นไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบ ผมคงเป็นดั่ง “ดอกคอสมอส ตอนนี้ยังเป็นฤดูใบไม้ผลินะ ถ้ารอไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จะเบ่งบานอย่างงดงามในฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้นอย่ารีบร้อนไปเลย” —คุณย่าชเววอนด็อกพูดเอาไว้ในเรื่อง Start-Up ขอบคุณมากนะครับคุณย่าชเววอนด็อก

FOLLOW YOUR DREAM

ถ้าใครได้ดูเรื่อง Start-Up มาแล้วก็จะเป็นประโยคนี้เกือบจะแทบตลอดเวลา เรื่องราวมันบิ้วแล้วบิ้วอีกให้เราทำตามความฝัน เราต้องสู้ให้เต็มที่เข้า Sandbox ให้ได้ (จากในเรื่องเป็นรายการ Hackathon ที่ใครๆก็อยากเข้าร่วม) และความรู้สึกในซีรี่ย์น้้นได้ถ่ายทอดมาสู่ผู้ชมหลายคนรวมถึงผมด้วยเต็มๆ ถ้าหากมันมีพื้นที่สำหรับให้คนล้มแล้วลุกขึ้นมาอย่างไม่เจ็บตัวเหมือนดั่ง Sandbox ก็คงจะดี ผมจึงตัดสินใจชวนเพื่อนๆในกลุ่มที่เรียน BADS NIDA (DADS NIDA) มาด้วยกัน ซึ่งต่างคนต่างก็มีต่างเหตุผลต่างความฝัน แต่พวกเราตัดสินเดินทางเข้าสู่การแข่งขัน Hackathon ครั้งแรกของพวกเรา เพื่อให้พวกเราได้เข้าใกล้ความฝันที่พวกเราตั้งไว้

ทีมของผมก็เป็นทีมที่ผสมผสานกันลงตัวมาก ผมมีพื้นฐานสายการตลาด สายการออกแบบ และสมาชิกคนแรกเป็นสาวจากสายไฟแนนซ์ไฟแรงที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็กระตือรือร้นและรวดเร็วไปหมดทุกอย่าง เรื่องความมุ่งมั่นในการเรียน Data Science ก็ไม่น้อยหน้าใครๆแน่นอน และสมาชิกคนที่สองคือหนุ่มวิศวะอุตสาหกรรมมากความสามารถที่ผันตัวเองมาเข้าวงการ Business Development มุ่งมั่นและศึกษาด้านธุรกิจต่างๆอย่างจริงจัง เป็นการรวมตัวทีมที่ทรงพลังมากเลยทีเดียวเพราะต่างคนต่างมีด้านที่ถนัดของแต่ละคน และความรู้ด้าน Data Science เมื่อเทียบกับผมที่เรียนมาด้วยกันกับพวกเขาแล้วก็ถือว่าสุดยอดจริงๆ ทีมฟอร์มดีขนาดนี้กำลังใจในการลงแข่งมาเต็มที่

NO ONE’S GONNA TAKE MY SOUL AWAY

การแข่งขันได้เริ่มต้นขึ้น พวกเรามีเวลาเพียง 24 ชั่วโมงในวิเคราะห์ข้อมูลและนำเสนอไอเดียตามโจทย์ที่ทางผู้จัดการแข่งขันให้มา เมื่อเห็นจำนวนผู้เข้าร่วมเยอะมากกว่าที่ผมคิดเอาไว้ และต่างคนต่างถามคำถามเชิงเทคนิคมากเกินกว่าที่ผมจะเข้าใจได้ ด้วยความที่ในทีมผมมีสาวไฟแนนซ์ไฟแรงสูงอยู่ เธอได้เข้าไปจัดการดูข้อมูลดิบและพยายามศึกษาว่าข้อมูลที่เรามีอยู่จะสามารถนำไปวิเคราะห์อะไรบ้างก่อนเวลานัดประชุมทีม ซึ่งเธอคนนี้เองเป็นคนที่นำทีมและแบกผมในงานกลุ่มวิชา Applied Machine Learning เรียกได้ว่ามีโมเดลไหนใครทำอะไรเธอสามารถลงมือเรียนรู้ลองผิดลองถูกเพื่อหาคำตอบมาได้จนที่สุด แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานหนัก เธอกลับมีข่าวร้ายที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตของพวกเรา 3 คนไปตลอดกาล กลายมาเป็นบทเรียนที่สำคัญของชีวิตพวกเราจากการแข่งขันครั้งแรก

เธอได้บอกกับผมและเพื่อนร่วมทีมอีกหนึ่งคนว่าติดปัญหาเรื่องข้อมูล JSON file เธอไม่สามารถแยกข้อมูลออกมาได้วิเคราะห์ได้ ในตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แค่นี้ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรเดี๋ยวถึงเวลาประชุมแล้วค่อยมานั่งดูปัญหากันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อีกใจหนึ่งกลับคิดว่า “แย่แล้วขนาดคนที่เก่งขนาดนี้ยังทำไม่ได้แล้วผมจะทำได้ไหมเนี่ย เอาวะ สู้หน่อยซักตั้งละกัน”

ON MONDAY THEY DESTROYED ME BUT BY FRIDAY I’M REVIVED

เมื่อถึงเวลาประชุมทีมทุกคนต่างพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยความรู้ทั้งหมดที่มี ทางผมก็พยายามกูเกิ้ลและเปิดตำราที่เรียนมา หาวิธีการแก้ไขปัญหาตรงนี้ให้จนได้ 30 นาทีผ่านไปความพยายามยังไม่สำเร็จ พวกเราก็ยังพยายามอยู่เต็มที่ และ 1 ชั่วโมงผ่านไปพวกเราก็ยังไม่สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ได้และ 2 ชั่วโมงผ่านไปเวลาเหลือน้อยลงทุกที แต่พวกเรายังไม่ก้าวข้ามอุปสรรคนี้เลย ผมเริ่มคิดในใจแล้ว “นัมโดซานคงเป็นไม่ได้แล้วตอนนี้ คงต้องกลับไปเป็นลิซ่า Blackpink เต้นในห้องอยู่คนเดียวเหมือนเดิมแล้ว” และเพลง One Day — Kim Feel (เพลงประกอบซีรี่ย์ Start-Up) ก็ดังขึ้นในหัวพร้อมกับนึกในใจว่า “คุณย่าชเววอนด็อก ผมขอโทษนะครับผมคงต้องเป็นดอกคอสมอสฤดูหน้าแล้วล่ะ”

คุณได้ซีนแล้ว แต่ซีนคุณแย่มาก
ภาพประกอบจาก The Face Thailand

ผมจึงตัดสินใจว่าเราตัดตัวแปรนี้แล้วเดินหน้ากันต่อเถอะ ทุกคนในที่สุดก็เห็นด้วยกับผมพวกเราปล่อยปัญหาตรงไหนไว้แล้วเดินหน้าต่อ แต่ดันกลับเจออีกปัญหาซึ่งต้องอาศัยทักษะในการเขียนโค้ดคล้ายๆกับปัญหาแรกที่เราเจอ พวกเราก็พยายามแก้ไขปัญหามาสักพัก ผมเริ่มหัวเราะจนน้ำตาไหลแล้วบอกกับทุกคนว่า “นี่มันอะไรกันว่ะเนี่ย นี่ชีวิตจริงเราต้องเจออะไรแบบนี้จริงๆหรอ” ทั้งสาวไฟแนนซ์ไฟแรงและหนุ่มวิศวะภาคอุตสุดมุ่งมั่นกับเห็นพ้องต้องกันกับผมและเริ่มหัวเราะไปด้วยกัน ผมนึกในใจ “พวกเราได้ซีนแล้วแต่ซีนมันแย่มาก”

WE WON’T SURVIVE WE’RE SINKIN’ INTO THE SAND

ในที่สุดพวกเราต่างยอมแพ้ มันช่างเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายมากเหลือเกินที่พวกเราจะมาถึงบทสรุปในบทนี้เพราะในใจผมก็คิดเหมือนกันว่าคนไม่มีใครอยากจะเป็นคนที่ยอมแพ้ให้กับปัญหาหรอก แต่ทุกคนต่างเห็นตรงกันว่า “นี่แหละคือประสบการณ์ที่พวกเราอยากจะเจอในการลงแข่งไม่ใช่หรอ เพียงแค่ประสบการณ์ในการแข่งขันนี้มันจบลงเร็วกว่าที่เราคาดไว้เท่านั้นเอง โลกแห่งความจริงในการทำงานพวกเราอาจจะเจออะไรแบบนี้อีกก็ได้” พวกเราไม่ฝืนแรงโน้มถ่วงอันหนักอึ้งต่อไปและต่างพากันล้มลงและก้มหน้ายอมรับชะตากรรมด้วยเสียงหัวเราะและความเต็มใจ ยังโชคดีที่พวกเราล้มลงใน Sandbox ที่ล้มไปแล้วก็ยังมีทรายกันกระแทกไม่ให้พวกเราเจ็บตัวมากนัก

และพวกเราต่างคุยกันเพื่อสรุปว่าการแข่งขัน Hackathon ครั้งนี้ได้สอนอะไรพวกเรามาบ้าง ผมจึงอยากจะแชร์ให้ทุกคนที่กำลังเริ่มต้นและพยายามตามฝันในสาย Data Science ถ้าความล้มเหลวคือการเรียนรู้ ผมว่าก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรที่จะแบ่งปันบทเรียนนี้ให้ทุกคนได้เรียนรู้กัน

  • การเขียนโค้ดเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ ต้องได้มากกว่าพื้นฐาน
  • เขียนโค้ดเก่งก็ไม่พอต้องมี Domain Knowledge แน่นด้วย
  • แม้จะเรียนในห้องได้ดีแล้วต้องหมั่นหาความรู้เพิ่มเติมเสมอ
  • ถ้าไม่ลงมือทำก็จะไม่สามารถเรียนรู้บทเรียนที่ต่างออกไปได้
  • กล้าที่จะล้มลงแล้ววางแผนต่อไปในการกลับมายืนให้ได้
  • การมีเพื่อนที่ร่วมหัวจมท้ายกัน ช่วยให้คุณไม่ล้มอย่างเดียวดาย

สุดท้ายนี้อยากจะขอขอบคุณปอและแมนที่ผ่านช่วงเวลาอันล้ำค่านี้ไปด้วยกันจริงๆ มันทั้งตื่นเต้น สนุก ประหลาดใจ ตกใจ สับสน แต่โดยรวมแล้วมันมีความสุขกับการได้ล้มลงไปด้วยกันจริง ถ้าหากใครอยากติดตามเรื่องราวการผจญภัยในโลก Data Science ที่แสนโหดร้ายและน่าทึ่งไปด้วยกัน สามารถกด Follow ผมไว้ได้ผมจะพยายามอัพลงวันจันทร์และวันพฤหัสนะครับ หรือสะดวกติดตามทาง Facebook หรือ Linkedin ก็ได้เช่นกัน หรือใครอยากจะสอบถามเรื่องชีวิตเรียนที่ BADS NIDA (DADS NIDA) ก็ยินดีแชร์ประสบการณ์เช่นกันนะครับ

Something u don’t need to know:

--

--

Canate Dew Prakobkaew
Canate Dew Prakobkaew

Written by Canate Dew Prakobkaew

I start from English literature to marketing, end up in data science.

No responses yet